[Economical Traveler] ជំរាបសួរ…សៀមរាប
(១)
จุมเรียบซัว...เสียมเรียบ (1)
----------------------------------------------------------
“ปีนี้ไปแบคแพคกัมพูชากันไหมครับพี่”
สักราวๆต้นปี 2557 ผมลองถามชวนรุ่นพี่
C (นามสมมติ) ที่ผมเคยช่วยงานหนังสือเกี่ยวกับ ASEAN ซึ่งทั้งคู่ก็สนใจเรื่องของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของกัมพูชาพอดี
อีกทั้งแม้ผมจะเริ่มคิดอยากไปเที่ยวแบบแบคแพค แต่ก็ไม่อยากลุยเดี่ยวในทริปครั้งแรก
ด้วยข้อจำกัดด้านประสบการณ์และการเงิน เลยเลือกระเทศเพื่อนบ้านที่ดูน่าจะมีเพื่อนร่วมทริป
นึกไปมันก็คงเรียกว่าเป็น
“โชคชะตา” ระหว่างผมกับกัมพูชาก็ได้….
15
ปีที่แล้ว แม้ว่าจะเคย“เหยียบต่างประเทศ”ครั้งแรก
ที่ปราสาทเปรียะฮ์วิเฮีย (พระวิหาร) แต่ตอนนั้น ผมเองก็ยังเป็นเด็กประถมอยู่
จำอะไรได้ไม่มากนัก
จากการพูดคุยกันคราวนั้น ทั้งผมกับพี่ C ก็ตกลงร่วมทริปกันโดยเลือกที่จะไปเสียมเรียบอย่างเดียวก่อน
เพราะเป็นแหล่งโบราณสถานสำคัญ (แถมเสียมเรียบอยู่ใกล้บางกอกมากกว่าเชียงใหม่ด้วยซ้ำ)
เพียงแต่ยังไม่ได้คุยกันถึงรายละเอียด
[ที่มาของภาพ: เพจ Ar-pae.com]
ถึงจะไม่ได้จองตั๋วเครื่องบินและที่พักตาม
Promotion นี้ แต่ก็ทำให้ผมได้คุยกับพี่ C ถึงรายละเอียดเรื่องทริปแบคแพค รวมถึงชวนรุ่นพี่ P
(นามสมมติ) เพราะเห็นว่าพี่เขาเคยวางแผนจะไปเสียมเรียบมาก่อนแต่เกิดทริปล่ม
และแบ่งหน้าที่ของแต่ละคนในทริป
ผม:
ปรับแก้แผนทริปจากแผนเดิมของพี่ P, ประมาณงบในทริป, ติดต่อและติดตามเรื่องที่พักกับเหมารถแท็กซี่
พี่
C: จองที่พักและตั๋วเครื่องบินผ่าน Expedia และติดตามเรื่องเที่ยวบิน (หากมีปัญหา)
พี่
P: แผนเที่ยวเดิม และการอ่านตัวอักษรภาษากัมพูชา
แผนทริปที่วางไว้
กับแผนที่ของ
www.world-heritage-site.com
และแผนที่ตัวเมืองเสียมเรียบในเวบ Angkornightmarket.com จนได้แผนออกมาแบ่งเป็นเซ็ตในแต่ละวัน
วันแรก “เซ็ตในเมือง” (ยกเว้นพนมบาแคง ที่อยู่นอกเมือง)
- ถึงเสียมเรียบ เช็คอินเข้าที่พัก
- ถึงเสียมเรียบ เช็คอินเข้าที่พัก
- พซาจะ (ตลาดเก่า) รวมถึงหาร้านหนังสือแถวนี้
- วัดเปรียะฮ์ปรมรวด (พระพรหมรัตน์) ไปดูสถาปัตยกรรมพื้นบ้านกัมพูชาสมัยใหม่
- วัดเปรียะฮ์ปรมรวด (พระพรหมรัตน์) ไปดูสถาปัตยกรรมพื้นบ้านกัมพูชาสมัยใหม่
-
พระตำหนักกษัตริย์กัมพูชา-ศาลหลักเมือง
-
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอังกอร์
-
ซื้อตั๋ว Angkor Pass แบบ 3 วัน
ช่วงระหว่าง 17:00-17:30
น.
-
พนมบาแคง
-
Pub Street (ร้าน Temple Balcony)
เส้นทางในวันแรกของทริป
ที่พักในตัวเมือง (A) -> พซาจะ (B) -> วัดเปรียะฮ์ปรมรวด (C) ->
พระตำหนักและศาลหลักเมือง (D) -> พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอังกอร์ (E) -> จุดซื้อ Angkor Pass (F) ->
ผ่านหน้านครวัด (H) -> ดูดวงอาทิตย์ตกที่พนมบาแคง (I)
พระตำหนักและศาลหลักเมือง (D) -> พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอังกอร์ (E) -> จุดซื้อ Angkor Pass (F) ->
ผ่านหน้านครวัด (H) -> ดูดวงอาทิตย์ตกที่พนมบาแคง (I)
ซึ่งขากลับก็ใช้เส้นทางใกล้เคียงกันกลับเข้า Pub Street ในตัวเมือง
วันที่
2 “เซ็ตของไกลทางตะวันออก”
-
กลุ่มโบราณสถานเกาะฮ์เก (เกาะแกร์)
-
ปราสาทเบ็งเมเลีย (บึงมาลา)
-
กลุ่มโบราณสถานโรลัวะฮ์ (โลเลย)
เส้นทางในวันที่ 2 ของทริป
ที่พักในตัวเมือง (A) -> กลุ่มโบราณสถานเกาะฮ์เก (C) -> ปราสาทเบ็งเมเลีย (D) ->
กลุ่มโบราณสถานโรลัวะฮ์ (F) -> กลับเข้าตัวเมือง
กลุ่มโบราณสถานโรลัวะฮ์ (F) -> กลับเข้าตัวเมือง
จะเห็นว่า เกาะฮ์เกอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของทางจากเสียมเรียบไปปราสาทเปรียะฮ์วิเฮีย (พระวิหาร : ทางขวาบนของรูป)
วันที่ 3 “เซ็ตปราสาทนอกนครวัด-นครธม”
-
ดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่หน้านครวัด (ไม่เข้าตัวปราสาท)
-
ปราสาทบ็อนเตียย-สเรย (บันทายศรี)
-
ปราสาทเมบนคางเกิด (แม่บุญตะวันออก)
-
ปราสาททมมะนน (ธมมานนท์) - ปราสาทเจาซายเตเวียะตา
(เจ้าสายเทวดา)
-
สเปียนทมอ (สะพานหินข้ามแม่น้ำเสียมเรียบ)
-
อโรคยศาลา (ในแผนที่มักเขียนภาษาอังกฤษกำกับเป็น Chapel of the hospital)
-
ปราสาทตาแกว (ตาแก้ว)
-
ปราสาทตาปรม (ตาพรหม)
-
ปราสาทบ็อนเตียย-กเดย (บันทายกเดย)
-
ดูดวงอาทิตย์ตกที่ปราสาทแปรรูป
เส้นทางในวันที่ 3 ของทริป
ที่พักในตัวเมือง (I) -> ปราสาทบันเตียย-สเรย (D) -> ปราสาทเมบนคางเกิด (C) ->
ปราสาททมมะนน-เจาซายเตเวียะตา (E โดน F บัง) -> ปราสาทตาแกว (F) -> ปราสาทตาปรม (G) ->
ปราสาทบ็อนเตียย-กเดย (H) -> ดูดวงอาทิตย์ตกที่ปราสาทแปรรูป (B)
ปราสาททมมะนน-เจาซายเตเวียะตา (E โดน F บัง) -> ปราสาทตาแกว (F) -> ปราสาทตาปรม (G) ->
ปราสาทบ็อนเตียย-กเดย (H) -> ดูดวงอาทิตย์ตกที่ปราสาทแปรรูป (B)
ขากลับก็ใช้เส้นทางใกล้เคียงกันกลับเข้าตัวเมือง
วันสุดท้าย “นครวัด-นครธม”
-
ดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่สระฮ์สร็อง (สระสรง)
-
ปราสาทเนียะป็วน (นาคพัน)
-
ปราสาทเปรียะฮ์คัน (พระขรรค์)
-
เปรียะฮ์เลียนจลดำเรย (ลานช้าง)
-
ปราสาทพิเมียนอากาฮ์ (พิมานอากาศ)
-
ปราสาทบาปวน
-
ปราสาทบายน
-
ปราสาทนครวัด
- เช็คเอาท์จากที่พัก กลับบางกอก
เส้นทางในวันสุดท้ายของทริป
เดินทางจากที่พักในตัวเมือง -> ดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่สระฮ์สร็อง (B) -> ผ่านบารายคางเกิด (บารายตะวันออก) ที่ตื้นเขินไปแล้ว ->
ปราสาทเนียะป็วน (C) -> ปราสาทเปรียะฮ์คัน (D) -> ปราสาทพิเมียนอากาฮ์ (E โดน F บัง) ->
ปราสาทบาปวน (F) -> ปราสาทบายน (G) -> ปราสาทนครวัด (H)
ปราสาทเนียะป็วน (C) -> ปราสาทเปรียะฮ์คัน (D) -> ปราสาทพิเมียนอากาฮ์ (E โดน F บัง) ->
ปราสาทบาปวน (F) -> ปราสาทบายน (G) -> ปราสาทนครวัด (H)
ขากลับก็ใช้เส้นทางใกล้เคียงกันกลับเข้าตัวเมือง
สถานที่ท่องเที่ยวที่มักมีในโปรแกรมทัวร์ที่เสียมเรียบ แต่ไม่ใส่ในทริป
-
“กบาลสเปียน” (แหล่งรูปสลักรูปศิวลึงค์ตามริมตลิ่งและใต้น้ำ)
ส่วนตัวผมก็สนใจ แต่เนื่องจากเวลามีไม่พอ และตอนวางแผนไม่แน่ใจว่าน้ำจะขุ่นแดงเมื่อเข้าฤดูฝนหรือไม่
-
ชุมชนเรือนแพบนโตนเลสาป ส่วนตัวไม่ได้สนใจ
ช่วงเวลาในทริป
จากการวางแผน พอสรุปได้แล้วว่าจะเป็นทริปแบคแพค 4 วัน 3 คืน
จึงล็อกไว้ที่ช่วง 10-13
ก.ค. ตรงกับช่วงหยุดเสาร์อาทิตย์พ่วงวันหยุดอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา
ซึ่งตรงกับช่วง Low
Season ที่เสียมเรียบ (เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม)
----------------------------------------------------------
การเดินทางระหว่างบางกอก-เสียมเรียบ
ตอนแรกคิดอยากจะเดินทางจากบางกอกไปเสียมเรียบทางรถบัส เพราะผมเองไม่ถูกกับเครื่องบิน
(ไม่ชอบความรู้สึกเวลาเครื่องบินกำลังขึ้น-ลง) แต่ทั้งพี่ C และพี่
P ไม่เห็นด้วย เนื่องจากตามโปรแกรมทริปนี้ถือว่าเดินชมโบราณสถานกันหนัก
และผมเห็นว่ามีเฉพาะผม ที่นั่งรถบัสระหว่างบางกอก-เชียงใหม่อีกต่อ คิดไปคิดมาเลยยอมไปทางเครื่องบิน
สำหรับสายการบินที่บินตรงระหว่างบางกอก-เสียมเรียบ
ได้แก่
- Bangkok Airways
สุวรรณภูมิ->เสียมเรียบ: 8:00-9:00, 11:35-12:35, 13:45-14:45, 17:40-18:40,
19:15-20:25
เสียมเรียบ->สุวรรณภูมิ: 9:50-10:45, 13:25-14:20, 15:35-16:30, 19:30-20:25, 20:55-22:10
-
Thai Air Asia
ดอนเมือง->เสียมเรียบ: 10:20-11:30, 19:50-21:00
เสียมเรียบ->ดอนเมือง: 12:15-13:25, 21:45-22:50
-
Cambodia Angkor Air
สุวรรณภูมิ->เสียมเรียบ: 10:40-11:50, 15:00-16:10,
20:00-21:10
เสียมเรียบ->สุวรรณภูมิ: 8:15-9:25, 12:50-14:00, 17:35-18:45
เนื่องจากราคาค่าโดยสารเครื่องบินของแต่ละสายการบินไม่เท่ากัน
เนื่องจาก Promotion
หรือช่วง Low/High Season จึงขอแนะนำให้ตรวจสอบจากเวบไซต์ของสายการบิน
หรือเวบหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก (เช่น skyscanner)
ซึ่งในทริปนี้ก็เลือก Air Asia เพราะค่าตั๋วเครื่องบินถูกที่สุดในบรรดาทั้ง
3 เจ้า (ในช่วงเวลาที่จอง) และผมสะดวกไปขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมืองมากกว่า โดยเลือกเที่ยวบินขาไป
ดอนเมือง->เสียมเรียบ 10:20-11:30
และขากลับ เสียมเรียบ->ดอนเมือง 21:45-22:50
การเดินทางจากบางกอกไปเสียมเรียบ ในที่นี้ผมระบุจุดตั้งต้นที่สนามบินดอนเมือง (ระยะการเดินทางด้วยรถยนต์ไม่ว่าจะจากดอนเมืองหรือสถานีหมอชิตก็พอๆกัน) ซึ่งผมคิดว่าระยะเวลาเดินทางด้วยรถยนต์ที่ Google Map ให้มานี้ คงไม่ได้คิดเรื่องสภาพการจราจรติดขัด และการเสียเวลาที่ด่านชายแดน
หากใครสนใจเดินทางจากบางกอกไปเสียมเรียบทางรถบัส (ผ่านด่านปอยเปต)
หลักๆจะมีอยู่ 2
เจ้า ได้แก่
-
บขส. (ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2)
ใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมง รถออก 8:00 และ 9:00 น. ค่าโดยสาร 750
บาท
-
แอร์อรัญพัฒนา
รถบัสออกวันละ 2 เที่ยว (จากสถานีขนส่งเอกมัย 8:30 น.,
จากสถานีขนส่งหมอชิต 2
10:00 น.) ค่าโดยสาร 600 บาท
บางกอก->อรัญประเทศ 4 ชั่วโมงครึ่ง / ด่านชายแดน 1 ชั่วโมง /
ปอยเปต->เสียมเรียบ 3 ชั่วโมง
----------------------------------------------------------
ที่พักและบริการรถของทางที่พัก
สำหรับที่พักนั้น ผมเลือกเอาจากปัจจัยตามนี้
1.
ราคาถูก จึงเล็งพวก Guest House มากกว่าโรงแรม
2.
มีห้องแอร์
เนื่องจากแต่ละวันในทริปเน้นการเดินชมโบราณสถานตั้งแต่เช้าถึงเย็น
จึงคิดว่าห้องพัดลมน่าจะเอาไม่อยู่
3. ตำแหน่งที่ตั้ง
- ไม่อยู่นอกตัวเมือง
-
ควรอยู่ใกล้พซาจะ (ตลาดเก่า)
- ห่างจาก Pub Street มาบ้าง (หากอยู่ใกล้ไปอาจเจอบรรยากาศที่นักเที่ยวยามกลางคืนเยอะเกิน)
แต่อยู่ในระยะที่เดินไปได้
4.
บริการรถรับส่งไปกลับระหว่างที่พัก-สนามบิน
รวมถึงมีบริการทริปนำเที่ยวให้เลือก (หมายถึงมีบริการรถตุ๊กตุ๊กหรือแท็กซี่ระหว่างทริป)
5. มีร้านอาหารในตัว (เผื่อในกรณีที่เหนื่อยจากทริปจนขี้เกียจไปหาอาหารเย็นกินแถวพซาจะหรือ
Pub Street)
6.
จำนวนดาวในหน้า Expedia เกี่ยวกับที่พักดูสูงกว่าที่พักอื่นๆที่มีราคาระดับเดียวกัน
จากเกณฑ์ทั้ง 6 ที่ผมใช้พิจารณานี้ มีอยู่ที่หนึ่งที่เข้าเกณฑ์คือ
Tropical
Breeze Guesthouse
พอผมเสนอที่พักแห่งนี้กับพี่ C และพี่
P และจองเรียบร้อยแล้ว
ก่อนพบว่าลืมอีกเกณฑ์หนึ่งไป.....
7.
สภาพห้องน้ำ
พี่ P เลยลองไปเช็คหน้าเกสเฮาส์นี้ในเวบ Tripadvisor .......โชคดีว่าสภาพห้องน้ำโอเคสำหรับพวกเรา (แต่ก็ทำให้ผมพยายามจะไม่ลืมเกณฑ์นี้ในการเลือกที่พัก
หากมีทริปครั้งถัดไป)
พอเริ่มส่งเมล์ติดต่อกับที่พัก
ก็รู้สึกว่าทางนั้นพยายามตอบกลับมาค่อนข้างเร็ว (ประมาณ 1-3 วัน และแน่นอนว่าต้องเป็นเมล์ภาษาอังกฤษ)
รวมถึงถามเกี่ยวกับค่าเหมารถสำหรับทริปแต่ละวัน
ทริปวันที่ 1 “เซ็ตในเมือง”: อยากลองใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กข้างนอก
จึงไม่ได้ถาม
ทริปวันที่ 2 “เซ็ตของไกลด้านตะวันออก”: ค่อนข้างสอดคล้องกับโปรแกรมนี้ของทางเกสเฮาส์
(ต่างกันแค่ในแผนมีกลุ่มโบราณสถานโรลัวะฮ์เพิ่มเข้ามา) http://www.tropicalbreezegh.com/?page_id=1260
โดยเลือกรถแท็กซี่แทนที่รถตุ๊กตุ๊ก
เพราะเป็นทริปที่เดินทางไกลสุด, ถนนไปเกาะแกร์ส่วนหนึ่งเป็นดินลูกรัง
ฝุ่นอาจจะเยอะ หรืออาจเกิดความไม่สะดวกหากฝนตก พบว่าค่าเหมารถแท็กซี่ 100 USD (คิดรวมทุกคน) ซึ่งแพงไป.....
ทริปวันที่ 3 “เซ็ตปราสาทนอกนครวัด-นครธม”: พบว่าอยู่ระหว่าง
2 โปรแกรมของทางเกสเฮาส์ http://www.tropicalbreezegh.com/?page_id=102
กับ http://www.tropicalbreezegh.com/?page_id=104
ตกลงได้ราคา 30
USD (ค่าเหมารถตุ๊กตุ๊ก 25 USD + ค่าล่วงเวลาดูดวงอาทิตย์ขึ้น
5 USD)
ทริปวันสุดท้าย “นครวัด-นครธม”: ตกลงได้ราคา
20 USD (ค่าเหมารถตุ๊กตุ๊ก 15
USD + ค่าล่วงเวลาดูดวงอาทิตย์ขึ้น 5 USD)
ส่วนบริการรถระหว่างสนามบิน-ที่พัก
ผมได้ถามย้ำกับทางเกสเฮาส์อีกที ตกลงว่ารถตุ๊กตุ๊กของเกสเฮาส์จะไปรับจากสนามบินฟรี
แต่ขากลับสนามบิน คิดค่าบริการแบบเหมา 5 USD
----------------------------------------------------------
ค่าเหมาแท็กซี่สำหรับทริปโบราณสถานรอบนอก
(เกาะฮ์เก-เบ็งเมเลีย-โรลัวะฮ์)
อย่างที่พบว่าราคาค่าเหมารถแท็กซี่กับทางเกสเฮาส์เพื่อไปโบราณสถานรอบนอก (เกาะฮ์เก, เบ็งเมเลีย,
โรลัวะฮ์) ในวันที่ 2
ของทริปนั้นแพงไปสำหรับพวกผม ตอนนั้นผมลองค้น google ดูเพื่อหารถแท็กซี่เจ้าอื่นว่าทริปไปเกาะฮ์เกกับเบ็งเมเลีย
มีราคาที่ดีกว่านี้ไหม
รายแรกที่เจอ ค่าเหมารถแท็กซี่ 100 USD
…….ราคาเท่ากับทางเกสเฮาส์
เลยขอบาย
รายที่ 2 “Angkorbestdriver” ให้ราคาไว้ที่ 80 USD....ตอนนั้นค้นเจอแค่สองรายนี้ที่ไปถึงเกาะฮ์เก
พอติดต่อตกลงกันทางเมล์ โดยขอเพิ่มกลุ่มปราสาทโรลัวะฮ์
(เพราะเช็คแผนที่แล้ว พบว่าอยู่บนเส้นทางระหว่างตัวเมืองเสียมเรียบ กับเบ็งเมเลีย-เกาะฮ์เก)
ทางนั้นก็ตกลงและให้ราคาลดลงมาอีกที่ 75 USD ซึ่งเป็นราคาที่หาร 3 คนลงตัวด้วย
จึงเลือกเหมาแท็กซี่รายนี้
รายที่
3 ผมเพิ่งเจอหลังจากทริปเสียมเรียบจบลงแล้ว แต่ใส่ไว้เผื่อใครสนใจครับ
----------------------------------------------------------
หนังสือที่ซื้อก่อนเดินทาง
และติดไปเสียมเรียบด้วย
หนังสือที่ผมซื้อก่อนไปทริปเสียมเรียบมี 3 เล่ม
ตามนี้ครับ
1.
“เที่ยวไม่ง้อทัวร์
ตีตั๋วตะลุยกัมพูชา” โดย Kittinew พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Tib Thai Inter Book
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ค่อนข้างหนักไปทางเสียมเรียบเป็นส่วนใหญ่
(มีฝั่งพนมเปญอยู่ไม่กี่หน้า)
และมีการสรุปค่าใช้จ่ายในทริปตอนที่ผู้เขียนไปเสียมเรียบ ซึ่งข้อมูลส่วนนี้
ผมได้นำมาใช้ในการประมาณเงินที่ควรแลกเป็น USD ก่อนไปเสียมเรียบ
แผนที่ 4 สีที่แถมมาด้วยถือว่าดีมาก
ช่วยผมวางแผนทริปในแต่ละวันได้สะดวกขึ้น แต่เนื่องจากแผนที่ไม่มีแถบมาตรวัดระยะทาง
ทำให้ผมกะระยะทางจากแผนที่ค่อนข้างยาก (ผมต้องกะเอาว่านครธมมีความกว้างด้านละ 3 km แทนแถบมาตรวัดในแผนที่)
2.
“Survivor กัมพูชา” โดย ผศ.ดร.ศานติ ภักดีคำ
พิมพ์โดยสำนักพิมพ์อมรินทร์
หนังสือเล่มนี้ ผมคิดจะเอามาอ่านฝึกความเคยชินกับภาษากัมพูชาให้มากขึ้น
แค่ในระดับอ่านอักษรกัมพูชาออกก็พอ แต่ก็ยังไม่มีเวลาฝึกจนถึงปัจจุบัน.....หวังว่าจะได้ลองฝึกก่อนไปพนมเปญ
3.
“30 ปราสาทขอมในเมืองพระนคร” โดย สรศักดิ์ จันทร์วัฒนกุล
พิมพ์โดยสำนักพิมพ์เมืองโบราณ
รีวิวหนังสือ: http://www.samkokview.com
ตอนแรกผมตั้งใจจะดูรายละเอียดของแต่ละปราสาทตามหนังสือเล่มนี้
แต่ก็พบว่าหนังสือเล่มนี้หนักเกินที่จะอ่านไปชมปราสาทไป
(โดยเฉพาะหากเป็นทริปที่เดินชมหลายปราสาทติดๆกันอย่างนี้) เลยเปลี่ยนแผนเป็นเดินชมปราสาท
สนใจตรงไหนก็ถ่ายรูปตรงนั้น แล้วเช็คว่าตรงกันไหม เป็นการเช็ค Sense ด้านโบราณคดีของตัวเองกลายๆในตัวด้วย
นอกจากนี้
เหมือนผมจะเจอนักท่องเที่ยวคนไทยถือหนังสือเล่มนี้อย่างน้อย 2 คน
ตอนผมไปปราสาทบันเตียย-สเรย
----------------------------------------------------------
ค่าไกด์คนท้องถิ่น
ถึงแม้ว่าในทริปนี้ พวกผมจะไม่อาศัยไกด์นำเที่ยวเลย
(อ่านหนังสือเตรียมตัวกันไปเอง)
แต่ผมก็หาข้อมูลส่วนนี้เผื่อไว้สำหรับคนที่วางแผนเที่ยวแบคแพคกันเอง
แบบพึ่งไกด์นำเที่ยวครับ
ค่าไกด์นำเที่ยวที่เสียมเรียบนั้น จะคิดเหมาเป็นรายวัน
(ซึ่งตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่ารวมค่าอาหารหรือไม่) แต่ถ้าหากในทริปเริ่มตั้งแต่เช้ามากๆ
(อย่างไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด) หรือไปโบราณสถานรอบนอก
จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมา สำหรับข้อมูลที่ผมลงไว้ เป็นค่าไกด์รายวันแบบต่ำสุด
(ไม่รวมค่าล่วงเวลา ค่าไปโบราณสถานรอบนอก หรือค่าอาหาร)
ไกด์ภาษาอังกฤษ: 30-40 USD
ไกด์ภาษาสเปน;
60-65 USD
ไกด์ภาษาฝรั่งเศส: 45-50 USD
ไกด์ภาษาเยอรมัน: 60-65 USD
ไกด์ภาษาไทย: 40-50 USD
ไกด์ภาษาญี่ปุ่น: 40-50 USD
ไกด์ภาษาเกาหลี: 60-70 USD
ไกด์ภาษาจีน: 50-55 USD
ข้อมูลดังกล่าว ผมประมาณจากเวบไซต์เหล่านี้ครับ
----------------------------------------------------------
ค่าใช้จ่ายและเงินที่แลกไว้ก่อนไป
ถึงแม้ประเทศกัมพูชาจะมีสกุลเงินเรียล (KHR) ก็ตาม
แต่เนื่องจากเสียมเรียบเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของกัมพูชา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่มาก
จึงมักจะใช้เงิน US
Dollar มากกว่า ขณะที่เงิน KHR มักใช้เป็นเงินทอน (เช่น
กรณีค่าอาหารที่มีเศษ 0.5
USD) โดยอัตราระหว่าง USD กับ KHR ที่เสียมเรียบจะเป็น
4,000 KHR = 1
USD (ดังนั้น หากทอน 0.5 USD จะได้แบงก์ 2,000 KHR)
เงินบาท (THB) ก็สามารถใช้ได้ แต่อัตราจะโหดขึ้นมาหน่อย
แล้วแต่พ่อค้าแม่ค้าคิด ส่วนตัวคิดว่าไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น
เมื่อต้องการเก็บเงิน USD
ไว้ หรือในกรณีที่ทางร้านค้าเขาสามารถรับเงินบาท แล้วราคาในหน่วยเงินบาทกับ
USD ไม่ต่างกันมาก
[ค่าใช้จ่ายที่จ่ายก่อนไป]
ค่าที่พัก
4 วัน 3 คืนพร้อมค่าโดยสารเครื่องบิน Air Asia ไปกลับ ดอนเมือง-เสียมเรียบ
(รวมค่าตัดบัตรเครดิตรุ่นพี่แล้ว) จองผ่าน Expedia: 5,450 THB/คน
[จำนวนเงินที่ประมาณไว้สำหรับแลกเป็น
USD ก่อนไป (คิดรายคน)]
ค่าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกอร์
12 USD + ค่าหูฟังคำบรรยายภาษาไทย 3 USD = 15 USD
ค่า Angkor Pass แบบ 3 วัน 40 USD
ค่าเหมารถแท็กซี่ (วันที่ 2) 75/3=25 USD
ค่าตุ๊กตุ๊ก
15 USD (วันแรก)+ 30 USD (วันที่ 3) + 20 USD (วันสุดท้าย) + 5 USD (ค่ารถไปสนามบิน) = 70 USD
ค่าเช็คเอาท์สาย 5 USD
[ค่าตุ๊กตุ๊ก + เช็คเอาท์สาย = 75 USD --> 75/3 = 25 USD]
ค่าเช็คเอาท์สาย 5 USD
[ค่าตุ๊กตุ๊ก + เช็คเอาท์สาย = 75 USD --> 75/3 = 25 USD]
ค่าเข้าเกาะฮ์เก 10 USD + ค่าเข้าเบ็งเมเลีย 5 USD = 15 USD
ค่าอาหารมื้อเช้า: พยายามประหยัดด้วยการซื้อขนมปัง
(พวกครัวซอง) 1
USD -> 3 วัน = 3 USD
ค่าอาหารมื้อเที่ยง:
5 USD (วันแรก) + 3 USD (วันที่ 2) + 6 USD (วันที่ 3) + 6 USD (วันสุดท้าย) = 20 USD
ค่าอาหารมื้อเย็น:
7 USD (วันแรก) + 5 USD (วันที่ 2) + 5 USD (วันที่
3) + 5 USD (วันสุดท้าย) = 22 USD
ค่าน้ำดื่ม: ขวดใหญ่ขวดละ 2 USD ประมาณไว้ 2 ขวด/วัน (เช้า-บ่าย) = 7 USD (3 วัน +
บ่ายวันแรก)
ค่าทิป: คนละ 4 USD
งบฉุกเฉิน (รวมซื้อของอื่นๆเล็กน้อย): 14 USD
รวมงบที่ประมาณทั้งหมด: 15+40+25+25+15+3+20+22+7+4 = 190 USD -> ปัดขึ้นเผื่ออีกเป็น 200 USD
ค่าทิป: คนละ 4 USD
งบฉุกเฉิน (รวมซื้อของอื่นๆเล็กน้อย): 14 USD
รวมงบที่ประมาณทั้งหมด: 15+40+25+25+15+3+20+22+7+4 = 190 USD -> ปัดขึ้นเผื่ออีกเป็น 200 USD
อัตราแลกเงิน THB->USD ที่ “หนุ่มฝั่งธน” แลกที่เชียงใหม่ (3 ก.ค. 2557): 32.28 THB = 1
USD -> 6,456 THB
----------------------------------------------------------
ของใช้ที่เตรียมไป
รายการเหล่านี้เป็นรายการที่ผมใช้เช็คของก่อนออกจากเชียงใหม่ครับ
- Boarding Pass ที่พิมพ์ไว้
- เงิน
- Passport
- เสื้อผ้า
- รองเท้าผ้าใบ
(เนื่องจากไปเสียมเรียบตอนฤดูฝน ซึ่งอาจมีโคลนและอาจลื่นเวลาฝนตก)
- หนังสือไกด์บุ๊คและแผนที่
- หน้ากากอนามัย (ไว้ป้องกันฝุ่นตามถนน
ซึ่งถนนไปโบราณสถานไกลๆเป็นถนนลูกรัง)
- อุปกรณ์กันแดด
(ผมใช้หมวกแบบพับได้ไป แต่จะเอาแว่นกันแดด หรือครีมกันแดดเผื่อเพิ่มก็ได้)
- ยาสำหรับโรคประจำตัว
- ตัวแปลงปลั๊กไฟ
(แม้ว่าไฟฟ้าที่กัมพูชาจะมีแรงดันไฟฟ้า 220 V เท่ากับที่ไทย
แต่เต้าเสียบที่นั่นมักเป็นแบบรูแบนคู่)
- ไฟฉาย
(สำหรับกรณีไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด หรือลงมาจากพนมบาแคงหลังดูดวงอาทิตย์ตก
รวมถึงดูรายละเอียดตามพื้นที่มืดๆในปราสาท)
- แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ ยาสระผม
ผ้าเช็ดตัว (กรณีผมนั้น เอาไปแต่แปรงสีฟันกับยาสีฟัน
กลายเป็นว่าที่พักมีแต่สบู่กับผ้าเช็ดตัวให้ ไม่มียาสระผม)
-
ร่มพับ
-
สมุดจดบันทึกเล่มเล็กๆ ที่ใส่กระเป๋ากางเกงได้
สำหรับจดบันทึกรายละเอียดในทริป (เช่น เวลาการเดินทางในทริป ค่าใช้จ่ายแต่ละวัน)
หรือใช้แนบพวกตั๋วเข้าชมโบราณสถาน (กันเปียกเหงื่อ หากใส่กระเป๋ากางเกง)
[ซีรี่ย์ "จุมเรียบซัว...เสียมเรียบ" ยังมีตอนต่อไปครับ]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น